วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การขายคืออะไร

การขาย คือ กระบวนการเสนอสินค้าและบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชื้อ และผู้ซื้อตัดสินใจซื้อด้วยความพึงพอใจ ประกอบด้วย
1. สินค้า -บริการ [ PRODUCTS ]
2. พนักงานขาย /นักขาย [ SALE ]
พนักงานขาย คือผู้ที่ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ผู้ซื้อเห็นคุณค่า หรือประโยชน์ ที่จะได้รับจากการซื้อสิน ค้าหรือบริการแล้วตัดสินใจ ด้วยความพอใจ
3. กระบวนการและขั้นตอนการขาย
กิจกรรมทั้งมวลที่พนักงานขาย/นักขายทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจในตัวพนักงานขายและเห็นประโยชน์ที่จะได้รับ
จากการซื้อสินค้า/บริการ แล้วตัดสินใจซื้อด้วยความพึงพอใจมีคำกล่าวที่ว่า " ขายตัวก่อนขายสินค้า "
4 ผู้มุ่งหวัง [ PROSPECTS ]
ผู้มุ่งหวัง คือผู้ที่ผู้ขายตั้งใจที่จะเสนอขายสินค้าหรือบริการ ผู้มุ่งหวังเป็นผู้ที่ผู้ขายคาดว่าจะเป็นผู้ซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ผู้มุ่งหวังโดยทั่วไปจะมีลักษณะ ดังนี้
M = Money (มีเงินพอที่จะซื้อสินค้า )
A = Authority ( มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อ )
N = Need ( มีความต้องการที่จะซื้อ )
5 ลูกค้า [ CUSTOMER ]
ลูกค้า คือ ผู้มุ่งหวังที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า /บริการ ก็จะเป็นลูกค้าของเรา ผู้ขายต้องทำให้ผู้ซื้อสินค้าครั้งแรกเป็นลูกค้าประจำ [ P ermanent Customer ]



นักขายสำคัญอย่างไร
1. ปัจจัยที่มิอิทธิพลต่อการขาย
- การโฆษณา
- การประชาสัมพันธ์
- การส่งเสริมการขาย
- การขายโดยพนักงาน
2. คุณลักษณะที่สำคัญของนักขาย
2.1 มีทัศนคติที่ดีต่อ งานขาย, สินค้า , ลูกค้า
2.2 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ บริษัท , สินค้าที่ขาย , คุแข่ง ( บริษัท - สินค้า )
2.3 มีความสามารถในการขายตามขั้นตอนของการขาย การเปิดการขาย การเสนอขาย การขจัดข้อโต้แย้ง การ ปิดการขาย
2.4 ทำงานอย่างทุ่มเท
2.5 มีความกระตื่อรือร้น
2.6 ควบคุมจิตใจ ,อารมณ์ได้
2.7 มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
2.8 มีบุคลิกภาพที่คนอยากเข้าหา
2.9 มีสุขภาพกายและจิตดี
2.10 มีอุปนิสัยที่คนชอบ

ผู้มุ่งหวัง - ลูกค้าคือใคร
คำกล่าวที่ว่า " ลูกค้าคือคนสำคัญ " " ลูกค้าคือพระเจ้า " ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า " Customer Focus " หรือ "Customer is the King" ยังคงเป็นคำที่ต้องอยู่ในใจนักขายทุกคนการขายจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ว่า พนักงานขายได้ตอบสนองความคาดหวังหรือ ความต้องการของลูกค้าได้มากน้อยเพียงใด ถ้านักขายสามารถตอบสองความต้องการของลูกค้าได้ ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อ การขายก็จะประสบความสำเร็จ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการขายตามขั้นตอนการขาย นักขายจึงต้องศึกษาความคาดหวังและความต้องการของลูกค้าก่อน

Presentation คืออะไร

PRESENTATION คืออะไร ?
PRESENTATION คือ : การถ่ายทอดความคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่มีวัตถุประสงค์ที่แน่ชัด ให้ผู้ฟังเข้าใจภายในเวลาจำกัดความหมายของการนำเสนอในแง่ต่าง ๆ
1.คือ การขายความคิด
2.คือ การลดความแตกต่างความเข้าใจของผู้พูดกับผู้ฟัง
3.คือ การเอาชนะข้อโต้แย้งจากผู้ฟัง
4.คือ เพื่อช่วยการตัดสินใจของผู้ฟังการนำเสนอที่จะบรรลุเป้าหมายต้องมีทั้งCONTENT : เนื้อหา / เนื้อ


เรื่อง PROCESS : วิธีการ / ขบวนการในการสื่อหรือการถ่ายทอดสิ่งที่ต้องควบคุมในการนำเสนอ

1. ตัวผู้พูดเอง (BODY CONTROL)
- แสดงความมั่นใจ
- การแต่งกายเหมาะสม
- ลดความตื่นเต้น / ประหม่า
- การวางตัวและท่าทาง


2. เนื้อเรื่อง (MATERIAL CONTROL)
- น่าสนใจ
- มีข้อมูลสนับสนุนดูน่าเชื่อถือ
- โครงเรื่องดี มีลำดับขั้นตอนเข้าใจง่าย
- เป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง


3. ตัวผู้ฟัง (AUDIENCE CONTROL)
- ดึงให้สนใจฟังตลอดเวลา
- ทำให้เห็นด้วย / คล้อยตาม
- แก้ปัญหาและท่าทีขัดแย้งของผู้ฟัง

การออกแบบคืออะไร

การออกแบบ (Design) คือศาสตร์แห่งความคิด แก้ไขปัญหาที่มีอยู่ เพื่อสนองต่อจุดมุ่งหมาย และนำกลับมาใช้งานได้อย่าง น่าพอใจ ตอนนี้ประเด็นอยู่ที่ว่า ความน่าพอใจ จะขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ข้อหลักๆ ดังนี้

1. ความสวยงาม เป็นสิ่งแรกที่เราได้สัมผัสก่อน คนเราแต่ละคนต่างมีความรับรู้เรื่อง ความสวยงาม กับความพอใจ ในทั้ง 2 เรื่องนี้ไม่เท่ากัน จึงเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันอย่างมาก และไม่มีเกณฑ์ ในการตัดสินใดๆ เป็นตัวที่กำหนดชัดเจน ดังนั้นงานที่เราได้มีการจัดองค์ประกอบที่เหมาะสมนั้น ก็จะมองว่าสวยงามได้เหมือนกัน

2. มีประโยชน์ใช้สอยที่ดี เป็นเรื่องที่สำคัญมากในงานออกแบบทุกประเภท เช่นถ้าเป็นการออกแบบสิ่งของ เช่น เก้าอี้,โซฟา นั้นจะต้องออกแบบมาให้นั่งสบาย ถ้าเป็นงานกราฟฟิก เช่น สื่อสิ่งพิมพ์นั้น ตัวหนังสือจะต้องอ่านง่าย เข้าใจง่าย ดังนั้นจึงเรียกว่า เป็นงานออกแบบประโยชน์ใช้สอยที่ดีได้

3. มีแนวความคิดในการออกแบบที่ดี เป็นหนทางความคิด ที่ทำให้งานออกแบบตอนสนอง ต่อความรู้สึกพอใจ ชื่นชม บางคนอาจให้ความสำคัญมากหรือน้อยหรือไม่ให้ความสำคัญเลย ก็ได้ ดังนั้นบางครั้งในการออกแบบ โดยใช้แนวความคิดที่ดี อาจจะมีคุณค่ามากขึ้นก็ได้
มัลติมีเดียหรือสื่อผสม หมายถึง การนำสื่อหลายชนิดมาใช้งานร่วมกันโดยผ่านคอมพิวเตอร์ แสดงผลทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง กราฟิกส์ ภาพเคลื่อนไหว สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ off-line และแบบ on-line

Drama คืออะไร

Drama หมายถึง บทละคร บทโทรทัศน์ บทวิทยุ หรือละครชีวิต ซึ่งเป็นองค์ประกอบเสริม
เพื่อเติมเต็มงานด้านกราฟฟิคที่ คำนึงถึงพื้นฐานความเป็นไปได้
ความเป็นจริงประกอบกับเรื่องของจินตนาการซึ่งไร้ขีดจำกัดในงานกราฟฟิค เช่น ในภาพยนต์
จะขาดไม่ได้ในเรื่องของความเป็นชีวิต ไม่ว่าจะมีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคทั้งเรื่อง
ก็จำเป็นต้องสอดแทรกความเป็นมนุษย์ลงไปในงานเพราะ งานที่่ออกมานั้นทำเพื่อให้คนได้ดู
เมื่อดูแล้วจึงจำเป็นต้องเกิดความเข้าใจ ดังนั้นผูัสร้างสรรค์งานด้านกราฟฟิค
ต้องเข้าใจในชีวิตจึงจะสามารถทำให้งานนั้นออกมาดีอย่างไร้ที่ติ

Erotic คืออะไร

EROTIC คือเรื่องที่เกี่ยวกับการเร่งเร้า แรงปรารถนา ความหลงใหล ใคร่รัก ภาษาอังกฤษเรียกว่า sexual love and
desire รากศัพท์เดิมของ อีโรติก มาจากคำว่า Eros ซึ่งดั้งเดิมมีความหมายในทางบวก หมายถึง เทพอีรอส
ที่งามพร้อม แต่ต่อมาเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นชั่วร้ายจนกลายเป็นปีศาจ ปัจจุบันเรามักจะพูดถึง อีโรติก
ในแง่การแสดงออกถึง ความปรารถนาทางเพศ ที่แสดงออกทาง ศิลปะ บทกลอน ความรัก เรื่องลึกลับ และ
จิตวิญญาณ คำว่า อีโรติก จึงไม่ได้หมายถึงความโป๊เปลือยเพียงอย่างเดียว
50% EROTIC เป็นคำจำกัดความของงานถ่ายภาพแนวแฟชั่นกึ่งอิโรติกที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
เป็นแนวการถ่ายภาพแฟชั่นที่นำเอากลิ่นไอของความเป็นอิโรติกเข้ามารวม ไม่เน้นความโป๊เปลือย
แต่ใช้การแสดงออกทางด้านอารมณ์มาแทน
ดึงความลึกลับเข้ามาใช้รวมถึงการใช้แสงเพื่อเพิ่มบรรยากาศของภาพให้ดูลึกลับเร่าร้อน
หรือการเลือกใช้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและการจัดฉากที่ทำให้เพิ่มอุณหภูมิของภาพให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น
ดังนั้น Erotic จึงเป็นองค์ประกอบทางด้านความคิด ที่ใช้ในการผสมผสานงานทางด้านกราฟฟิคได้เป็นอย่างดี

Action คืออะไร

Action หมายถึง การกระทำ การเคลื่อนไหว เหตุการณ์ในนิยายหรือ ภาพยนต์ อากัปกิริยา ท่าทาง
ในการเคลื่อนไหวของคนต้องอาศัยระบบต่างๆดังนี้
-ระบบโครงกระดูกมีลักษณะเป็นข้อต่อและเป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อต่างๆ
-ระบบกล้ามเนื้อ ซึ่งทำงานเป็นแบบแอนตาโกลิซึม (antagonism)
-ระบบประสาท ช่วยส่งกระแสความรู้สึกทำให้เกิดการเคลื่อนไหวตามทิศทางที่ต้องการ
ระบบโครงกระดูก กระดูกมีลักษณะเป็นข้อต่อและมีกล้ามเนื้อมายึดเกาะโดยอาศัยเอ็นช่วยยึดมี 2 ชนิด คือ
1. เอ็นที่ยึดกระดูกกับกระดูกเรียกว่า ลิกาเมนต์ (ligament)
2. เอ็นที่ยึดระหว่างกระดูกกับกล้ามเนื้อเรียกว่า เทนดอน (tendon)
การเคลื่อนไหวของมนุษย์ หรือ สิ่งของต่าง ไม่ว่าจะมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต
ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจ เพื่อการสร้างงานกราฟฟิค ให้มีความสมจริง
ทั้งด้านแสงและเงาตกกระทบ บนวัตถุ รวมถึงการหมุนของอวัยวะต่างๆ ทิศทางลม ทิศทางการเคลื่อนที่
เหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างงานด้วย Computer Graphic

Comedy คืออะไร

Comedy หมายถึง คามตลกขบขัน ความขบขัน ละครตลก ละครชวนหัว เรื่องตลก หัสนาฏกรรม
ละครตลก หรือ Comedy มีมาตั้งแต่สมัยกรีก และได้พัฒนารูปแบบการนำเสนอเรื่อยมา จนปัจจุบัน
นักการละครได้แบ่งละครตลกเอาไว้เป็นประเภท ดังนี้ Romantic Comedy สำหรับละครตลกประเภทนี้
เรามักจะได้ยินกันอยู่เสมอในละครหรื อหนังสมัยใหม่ ละครแบบนี้จะมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับ
ความรักระหว่างพระเอกกับนางเอก อาจจะมีอุปสรรคขัดขวางต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็เป็นลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน หรือ
ความขัดแย้งระหว่างครอบครัว แต่ในที่สุด ก็มักจะจบลงด้วยความสุขสมหวังเสมอเชคสเปียร์ เขียนละครตลกแบบ
Romantic Comedy ไว้หลายเรื่อง เช่น The Merchant of Venice หรือ As You Like It เป็นต้น Comedy Of
Manners เป็นละครที่มีเนื้อหาที่ล้อเลียนวงสังคมชั้นสูง ซึ่งจะมีกิริยาท่าทางแบบแผนในการปฎิบัติที่ดัดจริต
ผิดไปจากมนุษย์สามัญไพร่พื้นธรรมดาๆ ดังนั้น ละครตลกประเภทนี้จึงนำกิริยาท่าทาง หรือ manners
เหล่านี้มาล้อเลียน ดังนั้นภาษาที่ใช้ก็มักจะเป็นภาษาที่สละสลวยแบบพิสดาร
คือจงใจจะล้อเลียนภาษาท่าทางของพวกผู้ดีนี่เองDon Juan ละครตลก โดย Moliere
นักเขียนละครตลกที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 โพรดักชั่นนี้ เป็นของคณะละคร The Comedie Francaise
ซึ่งใช้การออกแบบฉากแบบสมัยใหม่Situation Comedy แปลตามตัวก็คือ ตลกสถานการณ์ คือ
สถานการณ์ที่ไม่ปรกติที่เกิดขึ้นโดยที่ตัวละครไม่คาดฝัน ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆที่ตลกขบขันขึ้นต่างๆนานา
Comedy of Ideas ในละครแบบนี้ ผู้เขียนบทจะมีจุดประงสงค์ที่แฝงเร้นอยู่ในบทละครแล้วว่า ต้องการให้ผู้ชมคิดอะไร
และนำความคิดหลักนี้มาขยายให้เป็นเรื่องตลก เพื่อให้ผู้ชมหัวเราะ และในที่สุด เมื่อละครจบลงแล้ว
ก็จะได้รับความคิดที่ผู้เขียนบทสอดใส่ไว้ในละคร นักเขียนบทละครที่มีชื่อเสียงสำหรับละครประเภทนี้ก็เช่น Bernard
Shaw เป็นต้น
Satiric Comedy ละครตลกประเภทเสียดสี ผู้เชียนบทละครประเภทนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเสียดสีเรื่องต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เรื่องความเป็นไปในสังคม หรือเรื่องข้อบกพร่องต่างๆของมนุษย์ นำมาล้อเลียนเสียดสี เพื่
อให้เกิดความตลกขบขัน ภาษาที่ใช้ก็จะเป็นแบบเสียดสี
Slapstick Comedy ละครตลกประเภทใช้ท่าทางการเคลื่อนไหวที่ตลกขบขันประกอบกับภาษาที่ทำให้ ผู้ชมหัวเราะ
เช่น วิ่งไล่ตีหัว แอบเข้าไปซ่อนในตุ่ม เป็นต้น
Tragicomedy เป็นละครที่นำลักษณะของ Tragedy และ Comedy มาผสมกัน
นักเขียนบทละครประเภทนี้พยายามที่จะเชื่อมช่องว่างระหว่างละครสองแบบนี้
ทั้งนี้โดยการซ่อนความคิดหลักที่ซีเรียสไว้ในสถานการณ์ที่ขบขันต่างๆที่เกิดขึ้นในเรื่อง และในที่สุด
เรื่องราวก็จะจบลงด้วยความสุขดังเช่นละครตลกทั่วไป ละครประเภทนี้มีผู้สรุปไว้ว่า คือ
"ละครโศกนาฎกรรมที่จบลงด้วยความสุข" Dark Comedy คล้ายคลึงกับ Tragicomedy คือ ดำเนินเรื่องแบบละครตลก
แต่ต่างกันตรงที่ตอนจบของเรื่อง ที่มักจะจบลงด้วยความไม่สมหวัง หรือเป็นแบบที่มีผู้สรุปว่า
"ละครตลกที่จบลงแบบโศกนาฎกรรม" Farce บางตำราถือว่า เป็นละครตลกประเภทต่ำสุด
และก็มักจะแยกออกไปจากคอเมดี้ เนื่องจากความขบขันที่เกิดขึ้นจะเกิดจากการใช้ท่าทางอย่างเดียว ใกล้เคียงกับ
slapstick comedy แต่ต่างกันตรงที่ farce จะไม่มีเหตุผล หรือเป็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ มีเนื้อเรื่องเพียงเล็กน้อย แต่ใช้
movement ที่รวดเร็วตึงตังเป็นการทำให้ผู้ชมขบขัน นักแสดงละครโชว์ ตลกของไทยก็มักจะแสดงในลักษณะ farce
และนักแสดงที่มีชื่อเสียงก้องโลกอีกคนหนึ่ง คือ ชาร์ลี แชบปลิ้น ก็เป็นนักแสดงในรูปแบบของ farce เช่นกัน
ละครแบบ farce เรื่อง Hotel Paradiso โดย George Feydeau ไม่ว่าจะเป็นละครตลกในรูปแบบไหน
แต่จุดประสงค์ของละครตลกก็เหมือนกัน คือ มองข้อบกพร่องต่างๆของมนุษย์ด้วยความขบขันเพื่อให้ผู้ชมระลึกในที่สุด
ว่า ในโลกเรานี้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่ไม่สมบูรณ์ทั้งนั้น